The Guardian สื่อแดนผู้ดี รายงานว่า เมห์ราน ซามัค ชายชาวอิหร่าน ถูกกองกำลังในประเทศเขายิงเสียชีวิต ภายหลังออกมาขับรถบีบแตรเฉลิมฉลองที่ทีมชาติตัวเองตกรอบฟุตบอลโลก
คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทีมชาติอิหร่าน ลงเล่นฟุตบอลโลกแพ้ สหรัฐอเมริกา 1-0 จบอันดับสามของกลุ่ม และยุติเส้นทางในทัวร์นาเมนท์ไว้แต่เพียงเท่านี้ หลังจบเกม ปรากฎคลิปวีดีโอประชาชนจำนวนมาก ในหลายเมืองของ อิหร่าน ออกมาเฉลิมฉลองแสดงความดีใจที่ทีมชาติตัวเองตกรอบ ชาวอิหร่านหลายคน ไม่ยอมสนับสนุนทีมชาติของพวกเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นตัวแทนของรัฐอิสลาม
ความไม่พอใจในรัฐอิสลามเริ่มต้นตั้งแต่ 10 สัปดาห์ก่อน จากเหตุการณ์ที่ มาห์ซ่า อามินี่ หญิงชาวอิหร่านถูกจับกุมข้อหาไม่สวมฮิญาบ และเสียชีวิตระหว่างอยู่ภายใต้การคุมตัวของเจ้าหน้าที่ซามัค วัย 27 ปี ก็เป็นหนึ่งในชาวอิหร่านที่ออกมาแสดงความดีใจ ด้วยการขับรถพร้อมบีบแตรไปตามท้องถนนของเมือง บานดาร์ อันซาลี
หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนที่ทำหน้าที่อยู่ใน อิหร่าน เปิดเผยว่านั่นทำให้ ซามัค ตกเป็นเป้าหมายโดยตรงของ กองกำลังติดอาวุธ และถูกยิงเข้าที่หัวเป็นเหตุให้เสียชีวิตซาเอด เอซาโตลาฮี กองกลางทีมชาติอิหร่าน ซึ่งได้ติดทีมไปฟุตบอลโลก และเป็นเพื่อนวัยเด็กของ ซามัค โพสต์รูปที่เคยถ่ายคู่กัน พร้อมข้อความลงอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อไว้อาลัย
“หลังจากเราเจอความพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดเมื่อคืนนี้ ข่าวการจากไปของนายทำให้จิตใจผมลุกเป็นไฟสักวันหนึ่งหน้ากากจะถูกถอดออก และความจริงจะถูกเปิดเผยนี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กๆ ของเราสมควรได้รับ และไม่ใช่สิ่งที่ประเทศของเราสมควรได้รับ”
งานศพของ ซามัค ถูกจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ร่วมงานตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสโลแกนหลักของกลุ่มผู้ชุมนุมภายในประเทศ