ในเกมยูฟ่าแชม เปี้ยนลีก เมื่อคืนนี้ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 14 ของสโมสรได้สำเร็จ หลังเฉือนเอาชนะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกยิงของ เวนิซิอุส จูเนียร์ ในนาทีที่ 59
ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก นัดชิงชนะเลิศจัดที่สนาม สตาร์ดเดอแพล๊ง ที่ประเทศ ฝรั่งเศส หลังจากรอบแรกจะจัดที่ประเทศรัสเซีย เนื่องสถานการณ์ที่ยังไม่สงบ และ ทางยุโรปไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้นำรัสเซียทำให้การแข่งรอบชิงต้องเปลี่ยนสนามมาเตะที่ฝรั่งเศสแทน ในนัดนี้ เป็นการพบกันระหว่าง รองแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล และ แชมป์ลาลีกา สเปน อย่าง เรอัล มาดริด โดยก่อนเกมมีการประกาศเลื่อนการแข่งขันไป 36นาที เนื่องจากพบว่ามีแฟนบอลบางคนนั้นใช้บัตรปลอมเพื่อเข้าสนาม ทำให้การแข่งนั้นดีเลย์ไป แต่สุดท้ายก็แก้ปัญหาได้
ในช่วงครึ่งแรกนั้นทั้ง2ทีมยังไม่เร่งเกมเร็วมาก เนื่องจากต้องการความแน่นอน แต่ลิเวอร์พูลนั้นก็เป็นทีมที่บุก ทำยังยิงได้เรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ กูร์ตัวส์ แต่ในนาทีที่ 43 เบนเซม่า ได้ซัดบอลเข้าไปตุงตะข่าย แต่ก็โดนจับล้ำหน้า ทำให้ลิเวอร์พูลรอดตัวไป และ ก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
และเริ่มเกมครึ่งหลังมา ทั้ง2ทีมก็ยังอยู่ในแท็คติก ลิเวอร์พูล ก็ยังเป็นทีมที่มีโอกาศยิงเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนเดิม ไม่สามารถยิงผ่านมือ นายด่านชาวเบลเยี่ยมได้เลย และ ในนาทีที่ 59 เวนิซิอุส ได้ยิงไปตุงตะข่ายพาทีมขึ้นนำ ลิเวอร์พูลไปด้วยสกอร์ 1-0 นั้นทำให้โยนความกดดันไปให้กับทัพ หงส์แดง ทำให้ลูกทีมของ คล็อปป์ นั้นต้องพยายามบุกและยิงตีเสมอให้ได้ หากจะคลายความกดดันลง แต่แน่นอน หงส์แดงนั้นไม่สามารถทำได้ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 1-0 ทำให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก สมัยที่ 14 ได้สำเร็จ
ในเกมนี้หากจะชมใคร แน่นอนต้องชมทาง เวนิซิอุส หลังเขายิงประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่ ก็อย่าลืม ธีโบต์ กูร์ตัวส์ ที่ในเกมนี้เจ้าตัวเปิดร่างทอง เซฟกระจุยกระจาย เหมือนกับว่า นักเตะลิเวอร์พูล กำลังยิงอัดกำแพง และ ต้องชมทุกคนที่ยังมีวินัยเล่นตามแท็กติกตามที่โค้ชสั่ง
และแน่นอน ลิเวอร์พูล เองนั้นทำดีที่สุดแล้ว คล็อปป์ ในช่วง5ปีหลัง เจ้าตัวสามารถยกระดับทีมขึ้นมาเป็นยอดทีมในยุโรป แม้ในฤดูกาลนี้จะผิดหวังไปที่ไม่สามารถคว้าได้ 4แชมป์ ที่มีลุ้น หลังจากพาทีมคว้า 2ถ้วยในลีกได้แล้ว แต่เกมนี้เองลิเวอร์พูลนั้นก็เรียกได้ว่าสุดยอดแล้ว