แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังร่างยักษ์ รู้สึกว่าเมื่อเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วตนจะถูกจับตามองและโดนวิจารณ์มากกว่าลงให้ ทีมชาติอังกฤษ พร้อมกล่าวขอบคุณ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เชื่อมั่นในตัวเขามาตลอด
ช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลนี้ กัปตัน “ปีศาจแดง” ตกเป็นตัวสำรองในทีมของ เอริค เทน ฮาก แต่สำหรับทีมชาติแล้ว เขายังเป็นคนสำคัญต่อเนื่อง พา “สิงโตคำราม” เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2022 กองหลังค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ให้สัมภาษณ์กับ The Telegraph เปิดเผยความแตกต่างระหว่างการเล่นให้ ยูไนเต็ด กับ ทีมชาติอังกฤษ
“ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมอยู่ภายใต้การจับตามองอย่างหนัก ทุกอย่างที่ผมทำและการจ่ายบอลทุกลูกของผมถูกนำไปวิเคราะห์ทุกประตูที่เราเสีย เป็นความผิดของแนวรับ และเมื่อคุณต้องลงเล่นทุกสัปดาห์ แบบที่ผมเคยทำมาตลอดหลายปี, ปีที่แล้วมันก็ยังไม่ดีพอ”
“ฤดูกาลที่แล้วไม่มีใครในทีมได้รับคำชม ดังนั้นฤดูกาลนั้นจึงเป็นเรื่องของทีมโดยรวม แต่ฤดูกาลนี้เราทำได้ดีขึ้นเยอะแทบจะทุกเกมที่ผมพร้อมลงเล่น ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แสดงออกมาซึ่งความเชื่อมั่นในตัวผม และผมรู้สึกว่าผมไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง”
“เซาธ์เกต คือคนที่ยอดเยี่ยม เขามอบความมั่นใจให้ผมลงสนามไปแสดงความเป็นตัวเอง และใช้ความสามารถของผมให้เป็นประโยชน์ผมไม่คิดว่าผมได้พิสูจน์ตัวเองจากฟอร์มตอนนี้ เพราะสองปีที่แล้วผมติดทีมยอดเยี่ยมของฟุตบอลยูโร ดังนั้นผมรู้อยู่แล้วว่าผมทำอะไรได้บ้าง”
“ผมไม่หลบซ่อนจากผลงานเมื่อปีที่แล้ว และช่วงเวลานั้นมันยากลำบาก แต่ผมรู้มาตลอดและผมมีความเชื่อมั่นอันยิ่งใหญ่ในตัวเอง ว่าผมจะสามารถหาฟอร์มเจอ พร้อมเรียกสมาธิและความมั่นใจกลับมาผมมีความสุขจริงๆ ที่ผมสามารถทำแบบนั้นได้ในเวทีที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผมรู้สึกดีทั้งจิตใจและร่างกาย ผมรู้สึกสดชื่น”
ขณะเดียวกัน แข้งวัย 29 ปี เปิดเผยอีกว่า เทน ฮาก ยังส่งข้อความให้กำลังใจเขาอยู่เสมอในช่วงฟุตบอลโลก
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการให้ผมโฟกัสเต็มที่กับทีมชาติอังกฤษ”
“แต่ผมได้รับข้อความดีๆ หลายข้อความจากพวกเขา มีบางข้อความบอกว่าผมกำลังโชว์ฟอร์มได้ดัแค่ไหน บางข้อความแสดงความยินดีที่เราได้เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีผมแน่ใจว่าพวกเขาจะตามดูเราลงเล่น แม้ว่า เทน ฮาก จะเชียร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์, ผมรู้สึกดีที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา”
คืนวันเสาร์นี้ ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เตรียมลงเล่นรอบ 8 ทีมทำศึกใหญ่กับ ฝรั่งเศส และ แม็กไกวร์ ก็บอกว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นในการผ่านด่านยากนี้เพื่อเป็นแชมป์โลกได้
“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกคือมีความแตกต่างอย่างมาก ระหว่างทีมชุดบอลโลกปี 2018 กับทีมชุดนี้ เพราะตอนนี้เรามีความเชื่ออย่างแท้จริงว่ามีความเป็นไปได้ผมได้ลงเล่นในปี 2018 เราไปถึงรอบรองชนะเลิศ และผมคิดว่าเพื่อนร่วมทีมหลายคนรู้สึกดีใจกับผลงานนั้น, ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในรอบรอง ตอนนั้นเราอยู่แล้วว่าเราจะกลับบ้านในฐานะฮีโร่”
“แต่ผมคิดว่าตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นแล้วว่าเราจะคว้าแชมป์รายการนี้ได้ และนั่นเป็นการปรับทัศนคติที่ดีแน่นอนเรารู้อยู่แล้วว่าการทำแบบนั้นมันยากแค่ไหน ผมคิดว่าอาจมี 5-6 ทีมที่มีความเชื่อมั่นแบบเดียวกัน ตอนปี 2018 เราไม่ใช่หนึ่งในทีมเหล่านั้น แต่ตอนนี้เราเป็นแล้ว”